วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รอยสัก

รอยสัก 
คือ การนำเอาศิลปะการเขียนสีและลวดลายต่างๆมาวาดไว้บนผิวหนังร่างกายให้อยู่ถาวร
การสักจะมี2ประเภท
ได้แก่ มีสักมือและสักเครื่อง
การสักมือ คือการสักน้ำมันการสักของข้างในนิยมสักกับอาจารย์ที่เป็นพระส่วนใหญ่จะใช้ในการสักยันต์หรือ สักของ เพื่อเป็นการเสริมมงคลให้แก่ผู้สัก เช่นสักแล้วอยู่ยงคงกระพัน สักแล้วยิงไม่เข้าแทงไม่เข้า และอื่นๆอีก ซึ่งเป็นที่นิยมกันตั้งแต่โบราณ

การสักเครื่อง คือเป็นการสักรุ่นใหม่ที่เป็นเครื่องจักรทำงานโดยขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าการสักเครื่องเป็นการสักสีหรือขาวดำลวดลายต่างๆที่เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เช่นการสัก old school, new school, Japanese tattoo เป็นต้น ที่นิยมในปัจจุบันเพราะใช้เวลาได้รวดเร็วกว่า



**หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย**
***บล็อกนี้ทำเพื่อการศึกษาสำหรับการเรียนรู้เท่านั้นไม่มีจุดประสงค์ใดที่จะมีการละเมิดลิขสิทธฺ์แต่อย่างใด***

ประเภทรอยสัก

ประเภทของรอยสัก
แฟนตาซี สไตล์ คือการผสมผสานของหลายรูปแบบจะเป็นภาพในจินตนาการหรือเทพนิยายต่างตามที่เราได้ดูมา
ทริบอล สไตล์ คือลวดลายกราฟิก เช่น เถาวัลย์ ใบไม้
ยุโรป สไตล์ คือภาพที่เหมือนลงแสงเงา คล้ายกับภาพเหมือนบุคคล
เจแปน สไตล์ คือลวดลายที่ของชาติตะวันออกเน้นเอกลักษณืโบราณของชาวตะวันออก เช่น ลายปลาคาร์พ ลายมังกร เป็นลายที่นิยมในการสัก
เวิร์ด สไตล์ คือการสักตัวอักษรที่มีความหมายหรือไม่มีความหมาย
ไกเกอร์ สไตล์ คือลวดลายนามธรรม จะเป็นลายที่สักกันเฉพาะกลุ่ม
พังค์ สไตล์ คือลายที่เป็นสีโทนดำไม่เน้นสีสันหรือไม่สักสี
ฮาร์ดคอร์ สไตล์ คือจะคล้ายๆกับพังค์ สไตล์แต่จะมีความเหมือนจริงมากกว่า
อินดี้ สไตล์ คือเป็นการสักที่ไม่มีสไตล์ชัดเจน ชอบอะไรก็จะสักอันนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว
ฟิลิปปินส์ สไตล์ คือเป็นการสักของชนเผ่า สักเพื่อความแข็งแกร่งและป้องกันอันตราย
โอสคูล สไตล์ คือลายสักคลาสิก ที่นิยมมาจากยุคของการเดินเรือ การสักจะมีไม่กี่เฉดสีภาพจะมีแค่2มิติเกี่ยวกับการเดินเรือ ในปัจจุบันเป็นสไตล์ที่นิยมสักกันมาก
นิวสคูล สไตล์ คือการสักในสมัยใหม่ที่สามารถบ่งบอกถึงตัวตนของผู้สักได้ โทนที่ก็จะเน้นสีสัน
ไทย สไตล์ คือการสักลวดลายที่ให้ผลในทางไสยศาสตร์หรือการสักยันต์    เพื่อให้การอยู่ยงคงกระพัน เป็นความเชื่อมาจากสมัยโบราณ

ส่วนของร่างกายเมื่อสักแล้วเจ็บปวดน้อยสุดและเจ็บปวดมากที่สุด

ส่วนของร่างกายเมื่อสักแล้วเจ็บปวดน้อยสุด
1.แขน 
เพราะเป็นบริเวณที่มีผิวค่อนข้างหนาแน่นและความอุดมสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อในการดูดซับความ เจ็บปวด

2.ไหล่
จะรู้สึกเจ็บปวดน้อยเพราะกล้ามเนื้อไหล่หนาและเป็นส่วนหนึ่งของผิวที่ตั้งอยู่ด้านบนของใบไหล่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากเข็มสักชัดเพราะอยู่ใกล้กับกระดูก

3.ต้นขา
กล้ามเนื้อขาจะลดความเจ็บปวดจากการสักเพราะคนส่วนใหญ่จะมีไขมันและกล้ามเนื้อขาและต้นขามากกว่าส่วนอื่นๆของร่างกายขาเป็นพื้นที่ที่มีความสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้

4.ปลายขา
เพราะกล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อน่องจะดูดซับความเจ็บปวดได้


ส่วนของร่างกายเมื่อสักแล้วเจ็บปวดมากที่สุด
1.ศีรษะ
เป็นส่วนที่เจ็บปวดที่สุดและยังเป็นส่วนที่สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของการทำงานของ เครื่องสัก

2.กระดูกสันนอกหรือใต้ราวนม
เพราะเป็นบริเวณที่มีกระดูกชัดเจนและเมื่อสักบริเวณก็จะสัมผัสได้ถึงรอยเข็มสักที่กำลังกรีดลวดลาย

3.ข้อศอก
เป็นจุดที่มีความเจ็บปวดเพราะเป็นบริเวณที่เป็นกระดูกและเป็นบริเวณที่ไม่มีความหนาแน่นของเนื้อ

4.ด้านในของต้นขาและเข่า
เป็นบริเวณที่บอบบางเนื้อค่อนข้างอ่อน
5.เท้า
เป็นบริเวณที่เจ็บปวดเพราะใกล้กระดูกและผิวค่อนข้างบาง
6.มือ
เป็นส่วนที่มือกระดูกเยอะที่สุดและจะมีเนื้อบางๆ แค่เราเอาเล็กจิ้มบนหลังมือก็รู้สึกเจ็บแล้ว

วิธีการดูแลรอยสัก


วิธีการดูแลรอยสัก หลังสักเสร็จ
            ไม่ว่าจะการสักครั้งแรก หรือ เพิ่มลวดลายใหม่ๆบนเรือนร่างของเรา อยากให้คิดว่าการสัก เป็นการลงทุนการดูแลรอยสักอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มจะทำให้การลงทุนของเรายั่งยืนซึ่งหมายถึงรอยสักของเราจะได้สวยไปนานๆซึ่งการดูแลรอยสักอย่างถูกต้องเริ่มตั้งแต่หลังสักเสร็จนั้นสำคัญมาก พอๆกับการเลือกรูปลายสักและเลือกช่างสักถ้าไปสักกับร้านสักที่มีชื่อเสียงและมีช่างสักที่เป็นมือ อาชีพโอกาสที่จะเกิดอันตรายกับผิวหนังก็แทบจะไม่มีเลยแต่นั้นก็ไม่ได้ความว่าเราไม่ต้องดูแลรักษารอยสักเลย

 ขั้นตอน วิธีการดูแลรอยสัก
1. แกะพลาสติกปิดแผลหลังจากสักเสร็จประมาน 1-2 ชั่วโมง
2.ล้างรอยสักด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือล้างแผล  เพื่อล้างคราบเลือดและน้ำเหลือง(ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ ห้ามทำความสะอาดรอยสักด้วยสบู่หรือแชมพู แต่สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ )
3.หลังอาบน้ำเสร็จซับน้ำเบาๆตรงบริเวณรอยสักให้แห้งสนิทในบริเวณที่สัก
4.ประมาน3วันรอยสักจะเริ่มตกสะเก็ดปล่อยให้สะเก็ดแผลแห้งเองตามธรรมชาติจะมีอาการคันให้ ใช้ Baby Oil สำหรับเด็กทาบริเวณรอยสัก ห้ามแกะหรือเกา
5.ประมาณ2สัปดาห์สะเก็ดแผลจะหลุดลอกให้ใช้โลชั่นทาเพื่อบำรุงผิวสามารถใช้โลชั่นที่ใช้อยู่  ประจำได้ปกติ